อาหารภาคกลาง


เมนูอาหาร ภาคกลาง

อาหารภาคกลาง เป็นอาหารที่มีความหลากหลายทางด้านรสชาติ และมีการใช้กะทิและเครื่องแกงมากที่สุด โดยการนำมาทำเป็นแกงต่างๆ และยังรับประทานแนมกับอาหารอื่นๆ ด้วย ในหมวดหมู่นี้ทาง เพ็ชรสังข์.คอม จึงได้รวบรวมไว้ซึ่งเมนูอาหารภาคกลางทั้งแบบดั้งเดิมและแบบสากลที่ประยุกต์ให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน สูตรในการทำอาหารภาคกลาง เมนูอาหารภาคกลาง อาหารของชาวภาคกลาง และมีวิธีการทำอาหารภาคกลางไว้ให้คุณผู้อ่านได้หัดทำกันหลากหลายเมนู ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง

อาหารภาคกลาง..ต้มส้มปลากระบอก


อาหารภาคกลาง..ต้มส้มปลากระบอก


ส่วนผสม อาหารภาคกลาง ต้มส้มปลากระบอก
  • ปลากระบอก (น้ำหนักตัวละ 100 กรัม) 6 ตัว
  • น้ำ 8 ½ ถ้วยตวง
  • น้ำปลา 1/3 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
  • น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ขิงอ่อน (ซอยเป็นเส้นบางๆ) 2 0กรัม
  • ต้นหอม (หั่นเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว) 100 กรัม
  • ใบผักชี 1/2 ถ้วยตวง
  • ส่วนผสม:เครื่องต้มส้ม อาหารภาคกลาง ต้มส้มปลากระบอก
  • หอมแดง (ซองบางๆ ตามขวาง) 1/2 ถ้วยตวง
  • รากผักชี (ซองบางๆ ตามขวาง) 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำป่น 3 ช้อนชา
  • กะปิ 2 ช้อนชา
วิธีทำ อาหารภาคกลาง ต้มส้มปลากระบอก
  1. นำปลากระบอกมาขอดเกร็ด ควักไส้และเหงือกออก คลุกด้วยเกลือล้างเมือกและคาวปลา ล้างน้ำให้สะอาด บั้งตัวปลาทั้ง 2 ด้าน
  2. โขลกส่วนผสมเครื่องต้มส้มเข้าด้วยกันให้ละเอียด
  3. ใส่น้ำและส่วนผสมที่โขลกไว้ คนให้เข้ากัน ปิดฝาตั้งไฟให้น้ำแกงเดือด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และเกลือป่น พอเดือดอีกครั้ง ใส่ปลากระบอกลงในน้ำแกงต้มส้ม อย่าคนปลาจะทำให้ปลาเละและเหม็นคาวตั้งให้เดือด ใส่ขิงเคี่ยวไฟอ่อนประมาณ 30 นาที ใส่ต้นหอม คนพอเข้ากันชิมรส เปรี้ยว หวาน เค็ม
  5. ตักต้มส้มปลากระบอก ใส่ถ้วยเสิร์ฟร้อนๆ โรยหน้าด้วยใบผักชี
ประโยชน์

คำส้ม นอกจากน้ำมะขามเปียกแล้วก็คือ ขิงอ่อน ขิงช่วยในการขับลม เพื่อให้ความร้อนกับร่างกาย อาหารเมนูนี้จึงมีรสชาติที่ไม่เหมือนเมนูอื่นๆ ความเผ็ดที่ได้จากขิงอ่อนซอยไม่เผ็ดมาก เด็กๆ ก็สามารถรับประทานได้ ขิงก็เป็นสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร ใช้ในเรื่องของการขับลม รับประทานเข้าไปก็จะรู้สึกสบายท้อง ถึงแม้ว่ารสชาติจะอร่อยแล้ว ก็มีคุณประโยชน์ว่า “ต้มส้ม” ก็ต้องมีความเปรี้ยวอยู่ ต้มส้มต่างจากต้มยำตรงที่ความเปรี้ยวไม่ได้มาจากมะนาวแต่มาจากน้ำมะขามเปียก เพราะฉะนั้นความเปรี้ยวในต้มส้มจะเป็นความเปรี้ยวที่ค่อนข้างจะอ่อน ละมุนละม่อม เพราะว่าน้ำมะขามเปียกนอกจากจะมีความเปรี้ยวแล้วยังมีความหวานอยู่ในตัวของมันเอง ไม่เหมือนกับมะนาวที่มีความเปรี้ยวอย่างเดียว ปลากระบอกเป็นปลาที่มีเนื้อค่อนข้างเยอะ รับประทานได้ง่าย ให้โปรตีน แล้วยังให้ไขมันในระดับที่ดีปานกลางไม่มากเกินไป ส่วนประกอบอื่นๆ ของต้มส้มเอง ก็มีพริกเล็กน้อย มีน้ำมะขาม ต้มส้มเป็นอาหารที่เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี เพราะว่ามีรสชาติที่กลางๆ เอกลักษณ์อีกอย่างของต้ม


###########################################################


อาหารภาคกลาง..แกงป่าปลาช่อนนา


อาหารภาคกลาง..แกงป่าปลาช่อนนา

ส่วนผสม:เครื่องน้ำพริก อาหารภาคกลาง แกงป่าปลาช่อนนา
  • พริกขี้หนูแห้ง 25 กรัม
  • หัวหอม 25 กรัม
  • กระเทียม 25 กรัม
  • ข่า ½ ช้อนชา
  • ตะไคร้ 15 กรัม
  • ผิวมะกรูด ½ ช้อนชา
  • รากผักชี ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1ช้อนชา
  • กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • ลูกผักชีคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา
  • ข้าวสารแช่น้ำโขลก 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม:เครื่องปรุง อาหารภาคกลาง แกงป่าปลาช่อนนา
  • น้ำ 5 ถ้วยตวง
  • ปลาช่อนนา ½ กิโลกรัม
  • มะเขือเปราะ(อ่อน) 150 กรัม
  • หน่อไม้ 200 กรัม
  • ถั่วฝักยาว 150 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าหั่นยาว 5 เม็ด
  • กระชายซอย ½ ถ้วยตวง
  • ใบกะเพราเด็ด 1 ถ้วยตวง
  • น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำมันถั่วเหลือง (ผัดน้ำพริกแกง) ¼ ถ้วยตวง
วิธีทำ อาหารภาคกลาง แกงป่าปลาช่อนนา
  1. โขลกพริกไทยให้ละเอียดใส่รากผักชี ข่า ผิวมะกรูด ตะไคร้ โขลกละเอียด ใส่พริกแห้ง เกลือป่น โขลกรวมกัน ใส่กระเทียม หัวหอมโขลก กะปิ ลูกผักชีคั่วป่น ยี่หร่าคั่วป่นโขลกจนละเอียด พักไว้
  2. หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นๆ
  3. ล้างผักให้สะอาด ผ่าเมะเขือเปราะเป็น 4 ชิ้น แช่น้ำไว้ หั่นหน่อไม้ถั่วฝักยาวเป็นท่อนขนาด 1 นิ้ว พักไว้
  4. ผัดน้ำพริกในน้ำมันผัดให้หอม ใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ใส่หน่อไม้ มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว พอผักสุกใส่เนื้อปลาช่อน พริกชี้ฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลาใส่ใบกะเพรา ยกลงพร้อมเสิร์ฟ
ประโยชน์
“แกงป่า เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพค่ะ เพราะมีสมุนไพรหลากหลายชนิด แต่จะแกงป่าให้อร่อยมีเคล็ดเล็กน้อย คือต้องนำพริกแกงไปเคี่ยวกับน้ำจนหอมก่อน และต้องใส่กุ้งแห้งป่นด้วย จะช่วยให้รสของแกงมีรสเค็มกลม ๆ รับประทานได้อร่อย” คุณแม่มะลิกล่าว ทั้งยังย้ำอีกว่าอย่าใส่น้ำตาลในแกงถ้วยนี้ เพราะหากจะแกงให้อร่อย รสหวานควรมาจาก กุ้งแห้งและวัตถุดิบอื่น ๆ และอย่าโลภใส่เครื่องแกงเยอะเกินไปจะทำให้น้ำแกงเหม็น ไม่อร่อยกลมกล่อม

###########################################################

อาหารภาคกลาง..ไข่พะโล้


อาหารภาคกลาง..ไข่พะโล้

ส่วนผสม อาหารภาคกลาง ไข่พะโล้
  • ไข่ไก่ 7 ฟอง
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • หมูส่วนสะโพก 300 กรัม
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมหั่นหยาบๆ 3 ช้อนโต๊ะ
  • อบเชยยาว 2 นิ้ว (คั่ว) 2 ท่อน
  • โป๊ยกั๊ก (คั่ว)3 ดอก
  • เต้าหู้ขาวแข็ง 3 ½ ก้อน
  • น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง
  • ซีอิ้วขาว ¼ ถ้วยตวง
  • ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 175 กรัม
  • น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง
วิธีทำ อาหารภาคกลาง ไข่พะโล้
  1. ล้างเปลือกไข่ให้สะอาด ใส่น้ำให้ท่วม นำไปตั้งไฟคอยคนบ่อยๆต้มจนไข่สุกแข็ง ยกลงรินน้ำทิ้ง แช่น้ำเปล่าให้เย็น แล้วปอกเปลือก พักไว้
  2. ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมหนาพักไว้
  3. โขลกพริกไทยให้ละเอียด ใส่รากผักชี กระเทียม โขลกจนละเอียด
  4. นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟ ใส่เครื่องที่โขลกไว้แล้วลงผัดให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปผัดให้หอม ใส่เนื้อหมู ไข่ น้ำปลา ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ผัดให้เข้ากัน
  5. ตักใส่หม้อ ใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ อบเชย โป๊ยกั๊ก เต้าหู้ พอเดือดทั่วแล้วลดไฟลง เคี่ยวไฟอ่อนๆ พอเดือดปุดๆ จนนุ่ม ยกลงพร้อมเสิร์ฟ
ประโยชน์

1. มีสารที่ช่วยต้านมะเร็งได้
          ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเครื่องเทศกลิ่นแรงนี้ นอกจากจะช่วยลดระดับไขมัน, คอลเลสเตอรอล  และน้ำตาลในเลือดได้แล้ว ทั้งนี้กำมะถันที่ผสมอยู่ในกระเทียม ยังสามารถยับยั้งการเกิดของสารก่อมะเร็งที่ชื่อ ไนโตรซามีน (Nitrosamine) ในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนั้นซีลีเนียม (Selenium) ที่พบในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และลดอันตรายจากการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ได้อีกด้วย
 2. สามารถป้องกันโรคหัวใจ
          สรรพคุณอันน่าทึ่งของกระเทียม นอกจากช่วยต้านโรคมะเร็งได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคหัวใจที่หลาย ๆ คนต่างหวาดกลัวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต, การอุดตันของเส้นเลือด, ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน และกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน 
 3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
          ประโยชน์ของกระเทียมไม่ได้มีแค่ยับยั้งและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้เท่านั้น กระเทียมยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้วพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค, เชื้อไวรัส, เชื้อรา รวมทั้งบรรเทาและลดอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างมาก
ประโยชน์ของข่า
เหง้าแก่ รสเผ็ดปร่า และรสร้อน สรรพคุณขับลมให้กระจาย แก้ฟกบวม แก้พิษไข้ ซับโลหิตร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้ รักษาโรคกลากเกลื้อน
ประโยชน์ของรากผักชี

ผักชีเป็นผักที่มีกลิ่นหอมจึงสามารถนำมาทำอาหารได้แทบทุกส่วนของต้น ไม่ว่าจะเป็นลำต้น ราก ใบและลูก
อาหารไทยส่วนมากมักโรยด้วยใบผักชี เพื่อแต่งกลิ่นและตกแต่งให้อาหารน่ากิน ลูกผักชีใช้ผสมในเครื่องแกง
ทำให้มีกลิ่นหอม ส่วนรากผักชีมักใช้ร่วมกับกระเทียมแต่งกลิ่นแกงจืดให้หอม อีกทังยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย
โดยมีฤทธิ์ในการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อและขับปัสสาวะ


###########################################################

Cr. mahidol.ac.th ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต